เป็นคำถามที่หลายคนถาม และมีคำตอบหลากหลายความคิดเห็น เพราะSmart Watch แต่ละแบบในตลาดมีหลากหลายแบบ แล้วแต่การใช้งาน

ถ้าเราแบ่งสมาร์ทวอทช์ตามการใช้งาน และเป็นที่นิยม ทางเราจึงแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ไลฟ์สไตล์. และ ออกกำลังกายจริงจัง.

โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งที่ Smart Watch จะทำได้คือ 

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

ตรวจจับกิจกรรมการออกกำลังกาย การเดิน การเต้นของหัวใจ การก้าวเดิน   เชื่อมต่อกับมือถือได้ รับส่งข้อมูลไม่ว่าจะเป็นข้อความ โทรศัพท์ ฟังเพลง ได้

=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=

ในบทความนี้ขอยกตัวอย่าง Smart Watch 3 ยี่ห้อ ที่มีจุดเด่นกันคนละด้านมาเป็นตัวอย่างเพื่อความเข้าใจ

fitness-tracker-future-futuristic-9051.jpg

Mi Watch(Xiaomi) (Xiaomi Amazfit PACE , Xiaomi Amazfit Stratos)

เป็น Smart Watch ที่มีจุดขายที่ราคาถูกมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น Mi Band4 (1,100 บาท) , Xiaomi Amazfit Pace(2,739บาท) , Xiaomi Amazfit Stratos (5,599 บาท)

เหมาะสำหรับคนที่ ใช้เพื่อดูกิจกรรมต่าง ๆ ของวัน และออกกำลังกายบ้างแต่ไม่บ่อย และไม่จริงจัง 

การเก็บข้อมูลค่อนข้างยุ่งยาก แต่ความแม่นยำถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว แถมมีGPS มาในตัว

สามารถจับกิจกรรมประจำวันการเผาผลาญแคลอรี่ได้ การออกกำลังกายได้หลากหลายชนิด อัตราการเต้นของหัวใจ การนอนหลับ

หน้าจอสัมผัส เปลี่ยนรูปแบบหน้าจอ เล่นเพลงได้ แบตอยู่ได้หลายวัน แต่ใช้ในชีวิตประจำวันค่อนข้างอึดอัด

ข้อเสียจากการใช้งานส่วนตัว เลยก็คือ ภาษาไทยสระยังไม่ตรง หรือไม่ก็ต้องลงRom เองซึ่งยุ่งยากมาก. หน้าจอสัมผัสบางครั้งไม่ตอบสนองตามสั่ง ยิ่งขณะออกกำลังกายที่มีเหงื่อ CPUมีความช้าหน่วง ๆ ไม่ทันใจ การส่งข้อมูลเข้ามือถือยุ่งยากพอสมควร โหลดแอปเพิ่มเติมไม่ได้

แต่ก็มีสายให้เปลี่ยนในตลาดมากมาย กันน้ำได้ไม่ได้แล้วแต่รุ่น

 

Apple Watch ( Apple Watch series3 , Apple Watch Series5 )

Screen Shot 2562-10-10 at 22.51.40.png

 

ด้วยยอดขายที่แซงนาฬิกาแบบอนาล็อก ไปเรียบร้อยแล้ว เป็นคำยืนยันเป็นอย่างดีว่าเป็นที่นิยมมาก จุดขายคือ ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเข้ากัน  ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งข้อมูล เช่นรับ ส่งข้อความ เก็บสถิติการออกกำลังสำหรับในระดับคนรักสุขภาพ.

สามารถโทรเข้าออก(รุ่น Cellular ) ฟังเพลง Online โดยไม่ต้องเพิ่งพา Smart Phone 

แต่ที่เป็นข้อดีมาก ๆ เลยคือ Apple Watch เป็นนาฬิกาที่เน้นไปทางสุขภาพที่ช่วยเหลือเวลาฉุกเฉินได้ 

เช่นการตรวจจับการลื่นล้ม Apple Watch สามารถโทรออกเองไปยังเบอร์ฉุกเฉิน หรือตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลืออัตโนมัติ(รุ่น 4 ขึ้นไป).  แม้กระทั่งจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Series4 ขึ้นไป รออนุมัติในเมืองไทย) และสามารถแชร์ข้อมูลให้หมอดูได้

หรือเพียงแค่กดที่ Apple watch ก็สามารถ โทรหาความช่วยเหลือฉุกเฉินได้โดยไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ (Cellular). ซึ่งน่าจะเป็น SmartWatch ตัวเดียวที่ได้รับการการันตีว่าน่าเชื่อ จนสามารถถือเป็นอุปกรณ์การแพทย์ได้เลย

ปัจจุบันมีขายทั้งหมด 2 รุ่น คือ Apple Watch series3 , Apple Watch Series5 

ซึ่งทำตลาดปั่นป่วนพอสมควร เพราะใน Series 3 ขายที่ราคา 6,400 บาท.  มาพร้อม GPS เป็นราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และความสามารถที่ทำได้. อีกทั้งสเปคที่สูง หน้าจอสัมผัสลื่น หน้าจอสีสรรสวยงาม สามารถลงแอปเพิ่มเติมได้มากมาย เช่นสามารถโต้ตอบ Line โดยไม่ใช้มือถือได้

จึงบอกได้ว่าเป็นรุ่นที่ คุ้มค่าที่สุดเท่าที่มีมา

ในด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายยังสามารถบันทึกการเดิน อัตราการเด้นของตัวใจ แคลอรี่  ติดตามการนอน แม้กระทั้งกีฬาชนิดต่าง ๆ ได้มากมายหลายชนิด ไม่ว่าทางบกหรือทางน้ำ

ตัวเรียนมีวัสดุหลายชนิด รวมถึงสายแท้ สายจากค่ายอิสระให้เลือกมากมาย ยิ่งใช้เชื่อมกับ iphone จะทำงานประสานกันได้ดี เช่นสายเข้า ข้อความเข้า แจ้งเตือนฯลฯ.  เมื่อมี Version ใหม่ ๆ สามารถอัพเกรด OS เพื่อเพิ่มควาสามารถได้เรื่อย ๆ (เหมือน IPhone)

ข้อเสียคือ สามารถใช้งานได้ 2 วัน(Series3ขึ้นไป)   ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

 

Garmin Watch

( Garmin Fenix 6 Series ,  Garmin Fenix 5X Sapphire , Garmin Fenix 5S Plus Sapphire , Garmin Forerunner 935 , Garmin Forerunner 245 Black Music  , Garmin Forerunner 645 , Garmin Vivoactive 3 Gunmatel  )

Screen Shot 2562-10-10 at 22.51.16

เป็น Smart Watch ที่เป็น Sport Watch มากกว่า ใช้สำหรับคนจริงจังการออกกำลังกายมีความถึก เดินป่าได้ 5 วัน  เน้นการใช้งานแบบการกดปุ่ม (หน้าจอสัมผัสเวลาเปียกสัมผัสยาก)

สามารถอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา (SmartWatch อื่น ๆ วัดเป็นช่วงๆ 30วินาที 1 นาที ต่อครั้ง) 

แบตอึด อยู่ได้หลายวัน ทำให้เปิดการใช้งาน GPS ต่อเนื่องได้ 24 ชั่วโมง ตรวจจับการนอนได้

ความสามารถการเชื่อมต่อ เล่นเพลง ก็สามารถทำได้เหมือน Smart Watch ทั่วไป(บางรุ่นก็ฟังเพลงไม่ได้)

โหมดออกกำลังกาย มากมายหลายชนิด  แต่ถ้าไม่ได้ใช้ออกกำลังกายจริงจัง การใช้งานจะไม่คุ้มเท่ายี่ห้ออื่น 

ข้อเสียคือ การใช้งานไลฟ์สไตล์ ความสวยของหน้าจอ การเชื่อมต่อข้อมูลกับมือถือ ทำไม่ได้เยอะเท่า Apple Watch จอไม่ใช่ระบบสัมผัส

ความสามารถของ Smart Watch แต่ละรุ่นยังมีความสามารถมากกว่านี้อีกมากมาย. 

คราวหน้าเราจะมาเจาะลึกแต่ละรุ่นกันอีกทีสามารถกดติดติดกันได้ที่ Facebook Fanpage TeeShutterB